บก.ปปป. สนธิกำลัง ป.ป.ช. – ป.ป.ท. วางแผนรวบเจ้าหน้าที่เขตราชเทวี เรียกรับสินบน 3.2 ล้านบาท เลี่ยงไม่ต้องจ่ายภาษี 40 ล้านบาท เจ้าตัวยังปฏิเสธ อ้างคิดว่าในถุงเป็นเอกสาร
วันนี้ (4 เม.ย.66) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป., พ.ต.อ.ธนวัฒน์ หิ้นยกฮิ่น ผกก.1 บก.ปปป. นำกำลังเจ้าหน้าที่ ปปป. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช., เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ง. เข้าจับกุม นายประมวล อายุ 57 ปี เพื่อดำเนินคดีในความผิดฐาน “เป็นเจ้าพนักงาน เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 และ ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต มาตรา 157 โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณลานจอดรถ โรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่ แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ การจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้รับแจ้งจากผู้เสียหายว่า เจ้าหน้าที่สำนักงานเขตราชเทวี ใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่เรียกรับเงินจากผู้เสียหาย โดยเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวแจ้งให้ บริษัทผู้เสียหายเข้าไปชำระภาษีโรงเรือนและที่ดิน ตามแบบ (ภ.ร.ด.๒) โดยผู้เสียหายได้มอบหมายให้ตัวแทนซึ่งเป็นพนักงานของบริษัทเข้าไปติดต่อ ต่อมาตัวแทนของผู้เสียหายได้กลับมาแจ้งให้ผู้เสียหายทราบว่า เจ้าหน้าที่สำนักงานเขตราชเทวี บอกว่า บริษัทฯ จะต้องชำระค่าภาษีประมาณ 40 กว่าล้านบาท แต่หากนำเอาเงินมาให้ เจ้าหน้าที่สำนักงานเขตราชเทวี รายดังกล่าว จำนวน 3 ล้านบาท จะเก็บเรื่องดังกล่าวไว้ ทำให้บริษัทฯ ไม่ต้องชำระเงินจำนวน 40 กว่าล้านบาท
ซึ่งบริษัทได้ให้ตัวแทนติดต่อแจ้งว่ายอดภาษีที่แจ้งมานั้นมีจำนวนสูงเกินจริง แต่เจ้าหน้าที่สำนักงานเขตราชเทวี ได้ตอบว่าเงินที่เคยเสนอไปจำนวน 3 ล้านบาท ขอเพิ่มจำนวนขึ้นเป็น 3.5 ล้านบาท เพราะต้องเอาไปแบ่งกรรมการอีกหลายท่าน เมื่อผู้เสียหายแจ้งว่าจะนำพนักงานบัญชีของบริษัทฯ ไปขอทราบรายละเอียด ก็ได้คำตอบว่าสามารถลดราคาลงได้เหลือ 3.2 ล้านบาท ซึ่งผู้เสียหายเห็นว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย จึงมาร้องเรียนเพื่อให้ตรวจสอบ โดยขณะที่ผู้เสียหายได้ให้ถ้อยคำต่อพนักงานสอบสวนอยู่นั้น ตัวแทนของผู้เสียหายได้โทรศัพท์เข้ามาหาและแจ้งว่าได้นัดหมายกับ เจ้าหน้าที่สำนักงานเขตราชเทวีคนดังกล่าว เพื่อให้เข้ามาพบผู้เสียหายในวันที่ 31 มี.ค.66เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป. พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ช. และเจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ท. จึงได้ประสานวางแผนการจับกุมร่วมกับผู้เสียหาย กระทั่งทราบว่ามีการนัดหมายส่งมอบเงินให้กับเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตราชเทวี ในวันที่ 4 เม.ย.66 เจ้าหน้าที่จึงให้ผู้เสียหายนำเงินสดที่ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานแล้วไปมอบให้เจ้าหน้าที่สำนักงานเขตราชเทวี ตามนัด โดยมีตำรวจเฝ้าสังเกตการณ์อยู่บริเวณโดยรอบ และเมื่อผู้เสียหายได้ส่งมอบเงินแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัวเข้าตรวจค้น พบว่ามีเงินสดจำนวน 3.2 ล้านบาท อยู่ภายในถุงกระดาษสีขาว ที่เจ้าหน้าที่สำนักงานเขตราชเทวี ถือติดตัวมาด้วย จึงแจ้งพฤติการณ์และข้อกล่าวหาให้ผู้ต้องหาทราบ ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน บก.ปปป. ดำเนินคดีตามกกฎหมายต่อไป